หอพักวุ่นวาย กับ นายหน้าสวย บทที่ 6 - นิยาย หอพักวุ่นวาย กับ นายหน้าสวย บทที่ 6 : Dek-D.com - Writer
×

    หอพักวุ่นวาย กับ นายหน้าสวย บทที่ 6

    ผู้เข้าชมรวม

    70

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    70

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  20 พ.ย. 56 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Friday 20.30 น.
    ห้อง106
    กริ๊ดด~ เสียงของมาโดกะดังลั่นห้องก่อนที่จะขะเยิบมาใกล้ๆแล้วก็กอดแขนผมแน่น
    “โทรุจังฉันกลัวอ่ะ”
    “ถ..ถ้ากลัว ล..แล้วจะเอามาดูทำไมล่ะคะ” ผมพูดติดๆขัดๆนั้นก็เพราะมาโดกะจังที่มากอดแขนผม ถ้าเอาแค่แขนมากอดอย่างเดียวก็ไม่เป็นไรหรอกแต่เธอเอาอย่างอื่นมากอดด้วยน่ะซิ
    “ก็ฉันอยากดูนี่นา” ก..กอดแน่นยิ่งกว่าเดิมอีก  โอ๊ย~ไม่ใช่เวลามาคิดแบบนั้นซักหน่อย..ที่บอกว่ากลัวน่ะมาโดกะจังเค้าเอาDVDหนังสยองขวัญมาให้ผมดูเป็นเพื่อน แต่เธอกลับมากลัวซะเองไม่รู้ว่าจะเอามาดูทำไม
    “ทั้งๆที่กลัวนี่นะคะ” รู้สึกแหม่งๆยังไงก็รู้ไม่รู้ซิที่ชวนผมมาดูเพราะว่ากลัวจริงๆน่ะเหรอ อือ..น่าสงสัยแฮะ
    “ถ้าฉันกลัวฉันก็จะกอดโทรุจังแค่นี้ก็หายกลัวแล้วล่ะ” พูดจบเธอก็ยิ้มให้ผม..นั้นไงกะแล้วว่าจะต้องมีแผนอะไรอยู่แน่ๆ คิดจะแกล้งทำเป็นกลัวเพื่อจะได้ฉวยโอกาสลวนลามผมซินะ
    “คุณนี่มันไวใจไม่ได้จริงๆนะคะ” แต่แปลกแฮะ ทำไมเธอถึงบอกล่ะว่าเธอจะทำอะไร มาโดกะจังคิดจะทำอะไรกันอยู่แน่นะ
    “ฉันกลัวจริงๆ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน..นี่กลัวเหรอเนี่ย
    “ค่ะ ฉันเชื่อแล้วค่ะจะปล่อยแขนฉันได้รึยังคะ” กอดแน่นไม่ปล่อยเลยเลือดกำเดาจะไหลอยู่แล้ว
    “โทษทีจ้ะ” เธอพูดก่อนที่จะปล่อยแขนผมจาก เออ..ขอไม่บอกดีกว่า “เอ๋ ทำไมโทรุจังถึงหน้าแดงขนาดนี้ล่ะไม่สบายรึเปล่า” ตายล่ะนี่ผมแสดงอาการออกมาชัดขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย
    “ฉ..ฉันคงจะอาบน้ำนานไปหน่อย สงสัยว่าไข้จะขึ้นแล้วล่ะค่ะ” ผมตอบพร้อมกับยิ้มแหย่ๆให้เธอ
    “โทรุจังยังไม่ได้อาบน้ำเลยไม่ใช่เหรอ” เวรล่ะดันแถทั้งๆที่ยังใส่ชุดนักเรียนอยู่ ใครจะไปเชื่อล่ะว่าอาบน้ำแล้ว “เป็นเพราะหน้าอกของฉันไปโดนใช่มั้ย” เธอพูดพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบตาผม แต่ก็ไม่ได้ผลเพราะใบหน้าของเธอตอนนี้แดงเหมือนคนเป็นไข้เลย ย..อย่าบอกนะว่ามาโดกะจังก็เริ่มจะมีใจให้ผมเหมือนกับคนอื่นๆ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆผมจะทำยังไงล่ะเนี่ย
    บทที่ 6 ท่าทีที่แปลกไปของใครบางคน
    12.20 น. ห้องชมรมเรื่องลึกลับ
    “ดีค่ะประธาน..อุ๊ย! พี่มายะ” 
    “ค่ะโทรุจัง”
    ที่ผมต้องเรียกประธานว่าพี่ก็เพราะวันก่อนที่ผมเรียกเธอว่าประธานแล้วเธอก็ทำหน้าบึ้งใส่ผมแถมยังไม่คุยด้วยอีก ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจว่าประธานเค้าเป็นอะไร แต่ดีนะที่รุ่นพี่เค้ามาบอกผมว่าประธานเค้าไม่ชอบให้เรียกเธอว่าประธานเพราะอะไรก็ไม่รู้หรอกนะ..แต่ให้เรียกว่าพี่แบบมันนี่ก็ดีเหมือนกันแฮะ และขณะที่ผมคุยกับพี่มายะสายตาของผมก็ไปสดุดเข้ากับสาวแว่นผมเปียที่นั่งอ่านหนังสืออย่างเงียบๆอยู่มุมห้อง…น..น่ารักจัง
    “เออ..พี่มายะคะ”
    “คะ”
    “ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นใครเหรอคะ”
    “สึคาโมโตะ หลิงซือ เธอเป็นสมาชิกของชมรมเราค่ะ” หลิงซือ เป็นลูกครึ่งซินะ น่าสนใจดีแฮะ..และพอผมคุยกับพี่มายะเสร็จผมก็จะไปทำความรู้จักกับเธอซักหน่อย
    “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณหลิงซือ” ผมพูดพร้อมกับโค้งให้เล็กน้อง แต่ว่า…
    “……” เงียบ ไม่มีปฏิกิริยาอะไร รู้สึกว่าเสียงของผมมันจะไม่ได้เข้าหูเธอเลยซักนิดแถมเธอยังไม่เงยหน้ามาดูผมเลยด้วยซ้ำ หรือว่าเธอจะเกลียดขี้หน้าผมซะแล้ว…ยังไงก็ยังไม่คุยกับเธอดีกว่าลองถามพี่มายะก่อนก็แล้วกัน
    “พี่มายะคะ”
    “มีอะไรเหรอคะ?”
    “เออ..คือ…”
    “คะ?” เจ้าตัวอยู่ในนี้ไม่กล้าถามแฮะ
    “ป..เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร เดี๋ยวฉันขอตัวก่อนนะคะ” พอพูดจบผมก็เดินออกจากห้องชมรมพร้อมกับความสงสัยว่าหลิงซือจังเค้าเกลียดขี้หน้าผมรึเปล่า
    ครืนน~ / ตึก
    “โทรุจัง”
    ว้าย! ตึง! 
    “อูย~ เจ็บๆ” เพราะเสียงของใครบางคนที่พูดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยที่ทำให้ผมตกใจจนล้มลงไปกองกับพื้น
    “โทรุจังไม่เป็นไรใช่มั้ย”
    และคนที่เรียกผมก็คือ….
    “ค..คุณมาโดกะเองเหรอคะ” โผล่มาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียงทำเอาตกใจหมดเลยแฮะ
    “ลุกไหวรึเปล่า” เธอถามพร้อมกับยื่นมือมาให้ผม
    “ค่ะ” ผมยื่นมือไปจับมือมาโดกะจังแล้วก็…
    ว้าย!  
    ตึง!
    ทันทีที่ผมกำลังจะลุกขึ้นมาโดกะจังก็ล้มลงมาทับผม..ไม่รู้ว่าเธอแกล้งหรือผมดึงเธอแรงไปกันแน่ แต่ตอนนี้มาโดกะจังก็ซบอยู่บนอกของผมแล้วล่ะ
    “อ..อื้อ~ ม..ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยโทรุ จ..จัง” เธอถาม
    “อ..เออ…” โดนคร่อมอยู่อย่างนี้ใครจะไปพูดออกล่ะ
    “ว้าย! ข..ขอโทษจ้ะ ฉ..ฉ..ฉันจะรีบลุกขึ้นเดี๋ยวนี้แหละ” มาโดกะจังรีบลุกขึ้นทันทีที่รู้ว่าเธอกำลังคร่อมตัวผมอยู่
    “ม..ไม่เป็นไรค่ะ” ถึงจะบอกว่าไม่เป็นอะไรก็เถอะ แต่รู้สึกเจ็บที่หลังแฮะ
    “ขอโทษนะ” พอพูดจบเธอก็รีบวิ่งหนีไป..แล้วจะเรียกผมทำไมเนี่ย
    18.30 น. โรงอาหาร
    ทำไมมาโดกะจังถึงมีอาการแปลกๆนะ  พอเจอกันเธอก็เหมือนจะหลบหน้าแถมยังทำอะไรหลายๆอย่างที่ดูจะการสร้างสถานการณ์อีกเป็นอะไรกันแน่นะ...
    “ข..ขอนั่งได้มั้ยคะ” เสียงใครบางพูดขึ้น
    “มิยุ” มิยุจังที่เคยมาสารภาพรักกับผมแต่สุดท้ายเราสองคนก็ได้เป็นพี่น้องกันจะว่าไปแล้วผมก็ไม่ได้เจอเธอมาซัก2-3วันแล้วแฮะ
    “ได้..รึเปล่าคะ” เธอถามอีกครั้งพร้อมกับยิ้มให้ผม
    “ด..ได้”
    “ขอบคุณค่ะ” พูดจบมิยุจังก็นั่งลงข้างๆผม
    เฮ้อ~ไม่เข้าใจผู้หญิงเลยจริงๆทั้งมาโดกะจังที่มีท่าทางแปลกๆ แล้วก็ซายากะจังที่ไม่ชอบผู้หญิงจู่ๆก็มาเลิฟๆกับครูเมกุมิอีก..ไม่เข้าใจจริงๆ
    “พี่คะ พี่โทรุ”
    “อ..อื๊อ” 
    “มีเรื่องอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจรึเปล่าคะ?”  มิยุจังถาม
    “ก..ก็นิดหน่อยน่ะ” มัวแต่คิดแต่เรื่องของคนอื่นจนลืมไปว่ามีมิยุจังนั่งอยู่ข้างๆ..รู้สึกว่าจะทำอะไรที่ดูเหมือนเป็นการเสียมารยาทซะแล้วซิ
    “พอจะบอกได้มั้ยคะว่าเรื่องอะไร” เธอถามต่อ
    “คือว่า..หลังๆมานี้คุณมาโดกะเค้ามีท่าทางแปลกๆน่ะ”
    “แปลก? ยังไงเหรอคะ”
    “ก็เวลาที่เจอกันเค้าก็ทำเหมือนจะหลบหน้า พอไปนั่งด้วยก็ลุกหนี คิดว่าแปลกมั้ย” โอ๊ย~พูดยิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่มาโดกะจังเธออะไรกันแน่นะ
    “เอ๋! รุ่นพี่ฮิเมโยริเนี่ยนะคะเดินหนีพี่โทรุ ปกติรุ่นพี่เค้าชอบมาเกาะติดพี่นี่นา” มิยุพูดด้วยสีหน้าที่ดูตกใจไม่น้อย..ก็แหงน่ะซิมาโดกะจังเค้าไม่เคยปล่อยผมให้รอดสายตาเลยนี่นาตามติดจนคนทั้ง ร.ร.จะให้ฉายาว่าเป็นเงาของผมเลย
    “นี่แหละที่ทำให้ฉันกลุ้มใจ เพราะไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงทำกับแบบนั้น”
    “หรือว่าต้นรักจะโตขึ้นแล้วคะ”
    “ต้นรัก..เหรอ” ศัพท์ใหม่รึไงนะ แล้วมันแปลว่าอะไรล่ะเนี่ย
    “ก็..บางทีการที่รุ่นพี่เค้าชอบมาแกล้งพี่โทรุอยู่บ่อยๆอาจจะทำให้รุ่นพี่เค้ามีความรู้สึกดีๆกับพี่ก็ได้นะคะ” พอมิยุจังพูดจบใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นมา
    “ง..งั้นก็แปลว่าคุณมาโดกะเค้าอาจจะชอบฉันงั้นเหรอ” ต..แต่ว่า มันจะเป็นไปได้เหรอก็มาโดกะจังเค้าชอบพี่นี่นาจะมาชอบเราได้ยังไงล่ะ
    “น..หนูคิดว่าใช่นะคะ ขนาดหนูยังชอบพี่ตั้งแต่แรกเจอเลย” แล้วเธอก็นั่งบิดไปบิดมาเหมือนกับตอนที่มาสารภาพรักกับผมเลย
    “เออ..มิยุจัง ฮัลโหลๆ” รู้สึกว่าเธอจะตกอยู่ในภวังค์ซะแล้วแฮะ
    “คะ โทษทีค่ะ” 
    “ไม่เป็นไร ว่าแต่..”
    “อะไรเหรอคะ”
    “ทำไมคุณมาโดกะเค้าถึงหลบหน้าฉันล่ะ” ถ้าเธอชอบผมจริงๆเธอก็น่าจะมาตามติดมากว่าเดิมไม่ใช่เหรอทำไมจะต้องหลบหน้ากันด้วย
    “บางทีรุ่นพี่เค้าจะลำบากใจเพราะเค้าอาจจะมีคนที่ชอบอยู่ในใจแล้วก็ได้นะคะ” จริงซิ มาโดกะจังเค้าชอบพี่นี่นา งั้นที่เธอพยามยามจะหลบหน้าผมเพราะว่าเธออาจจะระอายใจที่มาชอบน้องของคนที่ตัวเองชอบอยู่แล้วอย่างงั้นเหรอ
    “ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันจะทำยังไงดีล่ะ”
    “เรื่องนั้นหนูช่วยอะไรไม่ได้หรอกค่ะ” พูดจบมิยุจังก็เอามือมาแตะที่หน้าอกผมก่อนที่จะพูดต่อ “เพราะทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับตรงนี้..มีแต่หัวใจของพี่เท่านั้นล่ะค่ะที่จะบอกว่าควรจะทำยังไง”
    19.30 น. ห้อง 106
    หลังจากที่แยกกับมิยุจังที่โรงอาหารผมก็กลับมานอนที่ห้องแล้วก็คิดว่าจะทำยังไงกับเรื่องแบบนี้ดีและระหว่างที่คิดหาทางอยู่นั้นคำพูดของมิยุจังก็ผุดขึ้นมาในหัวของผม “มีแต่หัวใจของพี่เท่านั้นล่ะค่ะที่จะบอกว่าควรจะทำยังไง” มีแต่หัวใจของเราที่จะบอกได้งั้นเหรอ จะทำยังไงดีนะ จะทำยังไงถ้าพี่รู้ว่ามาโดกะจังเค้ามาชอบผม ถ้าเป็นอย่างงั้นพี่เค้าจะรู้สึกยังไงเราจะทำยังไงดีนะ
    วันต่อมา
    08.40 น. ห้อง B
    “ทุกคนนั่งที่ให้เรียบร้อยจ้ะ” ครูเอริพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มให้ทุกๆคน ก่อนที่จะหันไปเขียนคำว่า “ไม่สบายใจ” บนกระดานดำ “วันนี้ครูจะให้นักเรียนเขียนเรื่องที่ตัวเองไม่สบายใจมาคนล่ะหนึ่งเรื่อง แค่นี้ล่ะจ้ะ” พูดจบเธอก็ยิ้มให้อีก
    “เออ…ครูค่ะ ทำไมถึงให้พวกเราเขียนเรื่องที่ไม่สบายใจด้วยล่ะคะ” สาวคนหนึ่งถาม
    ครูเอริยื่นนิ่งอยู่ครู่หนึ่งเหมือนกับคิดอะไรบางอย่างอยู่ก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า “ไม่มีเหตุผลจ้ะ” คำตอบของครูเค้าทำเอาแทบทั้งห้องงงกันไปหมด ไม่มีเหตุผลจริงๆเหรอเนี่ย 
    “ไม่มีเหตุผลเหรอครับ” ผู้ชายอีกคนพูดขึ้น
    “จ้ะ แต่ว่านะ การที่คนเราได้ระบายเรื่องที่ไม่สบายใจในก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ เพราะฉะนั้นการเขียนเรื่องที่ไม่สบายใจนั้นมันไม่ต้องมีเหตุผลหรอกจ้ะ”
    5 นาทีผ่านไป
    โอย~ถึงจะให้เขียนแค่สิ่งที่ทำให้ไม่สบายใจแต่ทำไมผมถึงเขียนไม่ได้ล่ะ เรื่องที่ไม่สบายใจของผมมีเยอะงั้นเหรอ ไม่มั้งปกติผมก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจเลยนี่นาหรือจะมีก็…เรื่องมาโดกะจัง
    “คุณซาโอโทเมะไม่มีเรื่องที่ไม่สบายใจเลยเหรอจ๊ะ” เสียงใครบางคนพูดขึ้นข้างหูผม
     “ว้าย! ค..ครูเอรินะ ม..มีอะไรรึเปล่าคะ” 
    “ไม่มีเรื่องทุกข์ใจเลยเหรอจ๊ะ” เธอถามพร้อมกับยิ้มให้ผม
    “ก..ก็มีอยู่นะคะ แต่ว่า…”  ถ้าเขียนไปว่าผมกำลังสงสัยมาโดกะจังว่าเธอคิดยังไงกับผมกันแน่ ถ้าเขียนแบบนั้นล่ะก็… เฮ้อ~ไม่กล้าอ่ะ
    “แล้ว..เรื่องอะไรเหรอจ๊ะ”
    ผมก้มมองหน้าอกตัวเองเพื่อให้ครูเค้าสังเกตเห็นว่าผมมีเรื่องอะไรที่ทำให้ทุกข์ใจ
    “อ๊ะ! ไม่สบายใจเรื่องหน้าอกงั้นเหรอจ๊ะ” ครูเอริมีสีหน้าตกใจนิดหน่อย สงสัยจะช็อกนิดๆที่นักเรียนที่ได้คะแนนสอบติดอันดับ 2 ของระดับจะมากลุ้มใจเรื่องเล็กน้อยอย่างเรื่องขนาดของหน้าอกแบบนี้
    “ค..ค่ะ” ที่จริงผมก็อยากจะเขียนออกมาแบบที่คิด แต่ก็ไม่กล้าอยู่ดี
    “โทรุเธอมีปัญหาเรื่องหน้าอกงั้นเหรอ” ซายากะจังที่กำลังเขียนอะไรซักอย่างอยู่หันมาถามผม
    “ก..ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ”
    “เป็นพวกคลั่งอกภูเขาแท้ๆ แต่ของตัวกับเองกลับแบนเหมือนไม้กระดานเนี่ย ไม่ค่อยเข้ากันเลยน้า” พูดจบเธอก็หันกลับไปทำงานของเธอต่อ
    “ขอบคุณที่ให้กำลังใจ นะเคอะ” คนอะไรไม่รู้ชอบแถะเลมกันเหลือเกิน ถ้าเป็นแบบนี้ตลอดๆผมคงจะต้องชกเธอเข้าซักวันแน่
    จากนั้นครูเอริก็แนะนำวิธีต่างๆที่ทำให้หน้าอกของผมใหญ่ขี้นจนผมเกือบจะหลับคาโต๊ะ
    ~ต่อมา~
    กริ๊งงงง~
    “เอาล่ะทุกคน วันนี้พอแค่นี้จ้ะ คุซานางิคุงช่วยเก็บรวบรวมงานแล้วก็เอาไปส่งที่ห้องพักครูให้ด้วยนะจ๊ะ” พูดจบครูเค้าก็เดินออกจากห้องไป
    “ครับ” แล้วอีตาทาเครุก็เดินเก็บงานตามโต๊ะของทุกคน จนมาถึงผม
    “โทรุจังของานด้วยครับ”
    “อ..อื๊อ น..นี่ทาเครุ”
    “ครับ”
    “ฉันกับคุณมาโดกะจะเอางานไปส่งให้ครูเอง นายไปนั่งที่เถอะ”
    “คุณโทรุเนี่ยใจดีจังเลยนะครับ งั้นก็ฝากด้วยนะครับ”  ทาเครุพูดพร้อมกับยิ้มให้ผม ที่จริงฉันไม่ได้อยากจะใจดีอะไรกับนายนักหรอกฉันตั้งใจจะพามาโดกะจังไปคุยเรื่องบางอย่างเท่านั้นแหละ
    “ง..งั้นเหรอ” เฮ้อ~เกลียดขี้หน้าตานี่สุดๆเลยแฮะ
    16.36 น.
    กริ๊งง~~
    พอเสียงกริ่งดังขึ้นผมก็รีบรวบรวมงานที่ครูเค้าสั่งแล้วก็เดินมาที่โต๊ะของมาโดกะจัง
    “คุณมาโดกะไปกันเถอะค่ะ”
    “เอ๋? ป..ไปไหนเหรอ” 
    “ก็ไปส่งงานด้วยกันไงคะ” ผมจูงแขนเธอเดินออกมาจากห้อง
    “ด..เดี๋ยวซิโทรุจัง อ..อย่ารีบนักซิ”
    ระหว่างที่ผมกับมาโดกะจังกำลังเดินมาตามทางเดินเราสองคนแทบจะไม่ได้พูดอะไรกันเลย ทั้งๆที่ผมอยากจะคุยกับมาโดกะจังแท้ๆแต่ผมกลับไม่กล้าพูดจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย
    “ท..โทรุจัง ถึงห้องพักครูแล้วล่ะ” 
    “ค..ค่ะ” 
    เวลาต่อมา
    “ฉ..ฉันขอแยกตรงนี้นะ พอดีว่ามีธุระน่ะ”
    “เดี๋ยวค่ะ” ผมคว้าแขนเธอไว้ก่อนที่เธอจะเดินไป
    “ม..มีอะไรเหรอ” เธอถามด้วยน้ำเสียงอึกอักแล้วเธอก็พยายามจะไม่สบตาผม
    “คุณคิดยังไงกับฉันคะ” พอผมพูดขึ้นเธอคงจะตกใจอยู่ไม่น้อยที่ผมถามแบบนี้ แล้วก็เธอก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะหันมาสบตากับผมทั้งๆที่เมื่อกี๊เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองด้วยซ้ำ
    “ฉ..ฉันชอบเธอ”
    “ชอบฉัน..เหรอคะ” ม..ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่ที่มาโดกะจังเค้าจะพูดคำนี้ออกมา นี่เธอชอบผมจริงๆงั้นเหรอ
    “ถ..ถึงจะไม่รู้ว่าชอบตั้งแต่ตอนไหนก็เถอะ แต่พอฉันได้อยู่กับเธอ ได้แกล้งเธอ ได้คุยกับเธอแล้ว..ฉันมีความสุขมากเลยล่ะความรู้สึกนั้นมันคงจะเรียกว่า ชอบ ใช่มั้ย” ขณะที่เธอพูดใบหน้าของเธอแดงก่ำ ดูไม่เป็นตัวของตัวเองเหมือนกับว่ามาโดกะจังที่ผมเห็นอยู่ทุกวันก่อนหน้านี้ไม่ใช่คนคนเดียวกับเธอคนนี้เลย เออ..ยังไงดีล่ะมาโดกะจังตอนนี้เธอ..น่ารักจัง ไม่ใช่ซิตอนนี้ไม่ใช่เวลามาชื่นชมอะไรซักหน่อย
    “แล้วพี่ซาคุล่ะคะ ที่บอกว่าชอบพี่ซาคุ…คุณโกหกซินะคะ” สีหน้าของมาโดกะจังดูแย่มากตั้งแต่ที่พูดขึ้นมาเธอคงจะรู้แล้วว่าตัวเองกำลังจะทำร้ายจิตใจของคนคนหนึ่งไป
    “ฉันไม่ได้โกหกนะที่ฉันบอกว่าชอบซาคุจังน่ะ ฉันชอบจริงๆนะ..แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันชอบใคร” ขณะที่พูดเธอก็กุมมือผมแน่นเหมือนไม่อยากให้ผมไปไหนและดวงตาของก็เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ “เพราะฉะนั้นคบกับฉันเถอะนะ” พอเธอพูดจบน้ำตาของเธอก็ค่อยๆไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง…แต่ถึงจะเป็นอย่างงั้นผมก็ไม่สามารถที่จะตอบรับคำขอของเธอได้เหรอ
    “ขอโทษนะคะ ฉันรับความรู้สึกของคุณไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”
    “ท..ทำไม ทำไมล่ะ”
    “ฉันคิดว่าคุณน่าจะถามใจของตัวเองให้ดีๆก่อนนะคะว่าจริงๆแล้วคุณชอบใครกันแน่น และฉันก็เห็นเป็นพี่สาวของฉันคนหนึ่ง ถ้าจะให้คิดอะไรมากกว่านั้น..ฉันขอปฏิเสธค่ะ”
    “ฉันคิดดีแล้วว่าฉันชอบเธอ”
    “ยังไงฉันก็ขอปฏิเสธค่ะ”
    “โทรุจังมีคนที่ชอบอยู่แล้วซินะ”
    “เปล่าค่ะ ฉันยังไม่ได้ชอบใคร..แล้วฉันก็ไม่เคยคิดจะชอบใคร”
    “โทรุจัง”
    “ขอตัวก่อนนะคะ”
    วันต่อมา~
    08.10 น. ห้อง B
    หลังจากที่ผมปฏิเสธเธอผมก็รู้สึกผิดตั้งแต่เมื่อวานจะทำอะไรก็คิดแต่ว่ามาโดกะจังจะเสียใจรึเปล่า ผมพูดกับเธอแรงไปมั้ย เธอจะโกธรผมรึเปล่า เวลาเจอแล้วเธอผมจะทำตัวยังไงดีล่ะ
    “โทรุ”
    “ค..คะ”
    “เป็นอะไรไปดูไม่ร่าเริงเลยนะ” ซายากะจังถาม
    “ฉ..ฉันก็สบายดีนี่คะ ฮ..ฮ่าๆ” ผมคงจะคิดมากจนน็อตหลุดแน่เลย นี่ผมดูหดหู่จนคนอื่นรู้สึกได้เลยงั้นเหรอ
    “อาการหนักนะเธอเนี่ย” พูดจบเธอก็กลับไปอ่านหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ต่อ
    เฮ้อ~มาโดกะจังไม่มาคุยกับผมเลยแถมยังดูเศร้าๆไปอีก จะทำยังไงให้เธอกลับมาเป็นเหมือนเดิมดีนะ แต่จะว่าไปแล้วมาโดกะจังยังไม่มาเลยนี่นา ไปไหนของเค้านะ
    คลืน~นน / ตึง
    “โทรุจางงง~” มาโดกะจังวิ่งเข้าห้องมาพร้อมกับตะโกนเรียกผม
    “ค..คุณมาโดกะ” 
    “ขอจูบหน่อยย~” เธอก็วิ่งเข้ามากอดพร้อมกับพยายามจะจูบผม
    “อย่านะคะคูณมาโดกะ” ผมพยายามผลักตัวเธอออก แต่เธอก็เกาะผมแน่นเลย “คุณซายากะช่วยหน่อยซิคะ” 
    “หา?” รู้สึกว่าการขอความช่วยเหลือของผมมันจะเป็นเพียงแค่เสียงที่ลอยผ่านหูของซายากะจังไปเท่านั้นเอง
    “คุณมาโดกะปล่อยฉันเถอะค่ะ” พอผมเลิกผลักตัวเธอออกเธอก็เลิกพยามยามจะจูบผม แต่เปลี่ยนเป็นกอดแทน พอคนในห้องเห็นมาโดกะจังกอดผมก็ฮือฮากันใหญ่
    จากนั้นเธอก็ยื่นหน้ามาใกล้ๆหูผมแล้วก็พูดอะไรบางอย่าง
    “ขอบคุณนะโทรุจัง ฉันได้คำตอบจากใจของฉันแล้วล่ะ” 
    จุ๊บ
    ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรนุ่มๆมาแปะที่แก้มผมก่อนที่ผมจะจำอะไรไม่ได้อีกเลย แต่ผมก็พอจะจำได้ว่าคำที่มาโดกะจังพูดก่อนที่ผมจะจำอะไรไม่ได้นั้นคือ “ฉันจะพยามยามไปสารภาพล่ะ เอาใจช่วยด้วยนะ”
    คำตอบของหัวใจมาโดกะจังก็ยังคงเป็นพี่ซาคุอยู่เหมือนเดิมซินะ แต่ยังก็ต้องขอบคุณคำแนะนำของมิยุจังเค้าล่ะนะ ต้องตอบแทนซักหน่อยซะแล้วซิ ส่วนเรื่องที่จะเกิดหลังจากนี้ก็…ช่างมันเถอะ
    ***********
     
     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น